เด็กชายที(นามสมมุติ)นักเรียนสองภาษาที่ประสบปัญหาจากความบกพร่องในการอ่านตั้งแต่เขาอายุเพียง 12 ปี ด้วยความที่เขาไม่ได้เป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษตั้งแต่กำเนิดเขาจึงประสบปัญหาอย่างมากในการเรียนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะความรู้ทางด้านคำศัพท์ การอ่าน การทำความเข้าใจ การเขียน และการสะกดคำ ทำให้เขานั้นเลือกที่จะแสดงออกเป็นภาษาไทยเพียงอย่างเดียว ทีมีความต้องการที่จะพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษของเขาให้ดีกว่าเดิม เพื่อที่เขาจะได้สามารถไปเรียนต่อในต่างประเทศได้เช่นในอเมริกา หรือแคนนาดา
ทีได้รับการสนับสนุนในการเรียนภาษาอังกฤษจากสถานศึกษาของเขา แต่พ่อของทีต้องการจะลองใช้วิธีอื่นๆในการช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของทีเพิ่มเติมด้วย จึงได้ตัดสินใจจะเข้ามาปรึกษากับ DAS International ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Dyslexia Association of Singapore (DAS) และเข้าร่วมโปรแกรมการส่งเสริมทักษะทางด้านภาษาอังกฤษแบบพิเศษเป็นเวลา 30 ชั่วโมง
ในการทดสอบก่อนการเข้าร่วมโปรแกรมได้แสดงให้เห็นว่าทักษะในการอ่านทำความเข้าใจ และในการใช้ภาษาอังกฤษของเขานั้น อยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กอายุ 8 ขวบ DAS International ได้ใช้แผนการฝึกทักษะการอ่านแบบพิเศษโดยจัดเป็นการใช้การเรียนการสอนแบบตัวต่อตัว และมีการใช้ภาพกราฟฟิก และการใช้สิ่งของที่สามารถจับต้องได้เข้ามาผสมอยู่ในหลักสูตร นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีการเรียนการสอนแบบควบคู่ เช่น วรรณกรรมออนไลน์ และเทคนิคการเรียนโดยการแก้ปัญหา
หลังจากจบโปรแกรม ทีได้พัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษของเค้าจนขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กอายุ 9 ขวบ เขาสามารถอ่าน และเขียนได้มากขึ้น มีความรู้ทางด้านศัพท์มากขึ้น และสามารถอ่านทำความเข้าใจกับบทความต่างๆได้มากขึ้น สุดท้ายนี้เค้าสามารถนำแผนการส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษที่ได้รับมาใช้และสามารถนำไปต่อยอดด้วยตนเองในอนาคตได้
มีการประเมินคราวๆว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งหมด มีอาการบกพร่องในการอ่าน และจากจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์นั้น มีประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ ที่มีอาการค่อนข้างหนักและต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมีการประเมินคราวๆว่าใน 10 เปอร์เซ็นต์จากข้างต้น มีอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ ของคนที่มีอาการดังกล่าว มีอาการอื่นๆแทรกซ้อนด้วยเช่น อาการบกพร่องในการคำนวณ (dyscalculia) และ อาการสมาธิสั้น (ADHD)
สำหรับตัวอย่างของอาการที่อาจจะเกี่ยวข้องนั้นมีดังต่อไปนี้
•มีผลการเรียนที่ค่อนข้างต่ำ
•มีการปฏิเสธในการไปสถานศึกษาอย่างรุนแรง
•มีการแสดงอาการก่อกวนในเวลาเรียน
•มีการโกหก หรือ หาข้อแก้ตัวสำหรับการกระทำบางอย่าง
•มีลักษณะทัศนคติในทางยอมแพ้
•ไม่อยากสนทนากับผู้ปกครอง หรือครูในสถานศึกษา
•มีปัญหาในการเข้าสังคม เช่นการสนทนากับผู้อื่น
อันนาเบอร์ต้า เอเลอร์-เจน ประธานของ DAS International ได้กล่าวไว้ว่า “หากคุณคิดว่าบุตรหลานของพวกท่านอาจจะประสบปัญหาด้านความบกพร่องในการอ่าน มันเป็นเรื่องที่สำคัญในการพาพวกเขาเหล่านั้นไปพบ และ ปรึกษากับมืออาชีพ เพื่อที่เราจะได้ให้คำแนะนำ และ ทำการรักษาได้อย่างถูกวิธี มีผลวิจัยออกมาแล้วว่าการพาพวกเขาไปพบกับแพทย์ตั้งแต่ช่วงที่มีการแสดงอาการแรกๆนั้น สามารถทำให้เขาเหล่านั้นพัฒนา และแก้ไขอาการบกพร่องเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
มีนักเรียนเป็นจำนวนมากที่อาจได้รับประโยชน์จาก DAS International เหมือนที ผ่านการเรียนการสอนแบบออนไลน์ จากผู้เชี่ยวชาญ
งาน World Dyslexia Awareness Week (WDAW) 2020
ในช่วงเวลาเดียวกันกับงาน WDAW 2020 ในสิงคโปร์ของวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา DAS International ได้จัดงานสัมมนาผ่านระบบออนไลน์ฟรีสำหรับผู้ปกครอง และครูอาจารย์ทั่วโลก โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนถึงวิธีการช่วยเหลือเด็กที่มีความบกพร่องในการอ่านของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Q&A ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมให้คำตอบอีกด้วย สำหรับการดูย้อนหลังคลิกที่นี้ http://bit.ly/DAIforum2020
ติดตามข้อมูล และข่าวสารล่าสุดได้ที่เฟสบุค @dasinternational หรืออินสตาแกรม @dasinternationalsg
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ enquiry@dasint.org.sg หรือเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของเรา https://dasint.org.sg/